พนักงานบริษัทซื้อ-ขายหุ้นคนหนึ่ง (ฟอร์เรส วิทเทคเกอร์)ไปแอบได้ยินคนคุยกันในห้องน้ำถึงการวางแผนเพื่อล้มการแข่งม้าตัวเพื่อให้ตัวที่ชื่อ Butterfly ได้ชัยชนะ เขาจึงเดิมพันด้วยเงินก้อนมหาศาล แต่กาลกลับพลิกผันไม่เป็นอย่างที่คิด จึงต้องปล้นธนาคารเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ขณะหนีการจับกุมเขาวิ่งตัดหน้ารถยนตร์ที่ขับมาโดย ทริชา (ซาร่าห์ มิเชล เกลล่า) ดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ที่ดวงกำลังดิ่งลง ซึ่งเธอเองก็กำลังหาทางออกเพื่อให้พ้นจากการควบคุมจากผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ผู้มีอิทธิพลรอบด้านนาม เดอะฟิงเกอร์ (แอนดี้ การ์เซีย) โดยเขามีลูกน้องมือขวาคนสนิท (แบรนแดน เฟรเซอร์) คอยตามทวงหนี้สินเก็บค่าคุ้มครองและช่วยดูแล โทนี่ (เอมิล เฮิร์ช) หลานชายเจ้าปัญหาให้เขาด้วย

หมอหนุ่มใหญ่ (เควิน เบคอน) เคยรักษาลูกน้องคนสนิทของเดอะฟิงเกอร์จากปางตายจนหายสนิท ต้องมาสะเทือนใจเสียเองเมื่อ จีน่า (จูลี่ เดลพี) หญิงสาวรักแรกของเขาที่แต่งงานไป ได้รับอุบัติเหตุร้ายแรงและต้องการเลือดกรุ๊ปพิเศษ เขาจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้เธอพ้นขีดอันตรายให้ได้
ความสุข (Happiness), ความยินดี (Pleasure), ความโศกเศร้า (Sorrow) และ ความรัก ( Love)
เป็น 4 คำที่บ่งบอกความรู้สึกที่ทำให้การดำเนินชีวิตปกตินั้นเบี่ยงเบนออกจากเส้นเดิมที่เคยเดิน บอกไม่ได้ว่าเมื่อเบี่ยงออกมาแล้วผลออกมาจะเป็นรูปแบบใด ดี หรือร้ายก็สุดคาดการณ์ หนังให้ ฟอร์เรส วิทเทคเกอร์, แบรนแดน เฟรเซอร์, ซาร่าห์ มิเชล เกลล่า และ เควิน เบคอน เป็นตัวแทนของ 4 คำจำกัดความนั้นตามลำดับ
อย่างไม่ต้องสงสัยว่าหนังดึงและตรึงเอาอารมณ์คนดูได้ดีได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่มาจากการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านการแสดงของนักแสดงฝีมือชั้นแนวหน้าทั้งหลาย อีกการเรียงร้อยเหตุการณ์ให้เหลื่อมซ้อนอยู่นิดหน่อยแล้วหย่อนวางตำแหน่งของตัวละครที่จะเชื่อมระหว่างตอนก็ทำได้น่าสนใจ เป็นการเชื่อมที่ทำให้แต่ละชุดไม่หลุดออกจากกัน